TH/Prabhupada 1070 - การแสดงการรับใช้คือศาสนานิรันดร์ของสิ่งมีชีวิต: Difference between revisions
Visnu Murti (talk | contribs) (Created page with "<!-- BEGIN CATEGORY LIST --> Category:1080 Thai Pages with Videos Category:Prabhupada 1070 - in all Languages Category:TH-Quotes - 1966 Category:TH-Quotes - Lect...") |
(Vanibot #0023: VideoLocalizer - changed YouTube player to show hard-coded subtitles version) |
||
Line 8: | Line 8: | ||
[[Category:TH-Quotes - Introduction to Bhagavad-gita As It Is]] | [[Category:TH-Quotes - Introduction to Bhagavad-gita As It Is]] | ||
[[Category:Introduction to Bhagavad-gita As It Is in all Languages]] | [[Category:Introduction to Bhagavad-gita As It Is in all Languages]] | ||
[[Category: | [[Category:Thai Language]] | ||
<!-- END CATEGORY LIST --> | <!-- END CATEGORY LIST --> | ||
<!-- BEGIN NAVIGATION BAR -- DO NOT EDIT OR REMOVE --> | |||
{{1080 videos navigation - All Languages|Thai|TH/Prabhupada 1069 - ศาสนาหมายถึงแนวคิดแห่งความศรัทธา ความศรัทธาอาจเปลี่ยนแปลงได้ สะนาทะนะ-ดารมา ไม่ส|1069|TH/Prabhupada 1071 - ถ้าพวกเราสังคมกับพระเจ้า, ร่วมมือกับพระองค์ เมื่อนั้นพวกเราก็จะมีความสุขไปด้วย|1071}} | |||
<!-- END NAVIGATION BAR --> | |||
<!-- BEGIN ORIGINAL VANIQUOTES PAGE LINK--> | <!-- BEGIN ORIGINAL VANIQUOTES PAGE LINK--> | ||
<div class="center"> | <div class="center"> | ||
Line 18: | Line 21: | ||
<!-- BEGIN VIDEO LINK --> | <!-- BEGIN VIDEO LINK --> | ||
{{youtube_right| | {{youtube_right|CmzTCjKV8cM|การแสดงการรับใช้คือศาสนานิรันดร์ของสิ่งมีชีวิต<br/>- Prabhupāda 1070}} | ||
<!-- END VIDEO LINK --> | <!-- END VIDEO LINK --> | ||
<!-- BEGIN AUDIO LINK --> | <!-- BEGIN AUDIO LINK --> | ||
<mp3player> | <mp3player>https://s3.amazonaws.com/vanipedia/clip/660220BG-NEW_YORK_clip14.mp3</mp3player> | ||
<!-- END AUDIO LINK --> | <!-- END AUDIO LINK --> | ||
Latest revision as of 20:59, 23 October 2018
660219-20 - Lecture BG Introduction - New York
ด้วยการอ้างอิงถึงแนวคิดข้างต้นของ สะนาทะนะ-ดารมะ พวกเราอาจพยามทำความเข้าใจความคิดของศาสนาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤต ความหมายของคำ ดารมะ มันหมายถึงสิ่งนั้นที่มีอยู่ในตัวเสมอควบคู่กับสิ่งของนั้นอย่างต่อเนื่อง ดังที่พวกเราพูดถึงไปแล้ว เมื่อพวกเราพูดถึงไฟมันรวมเข้าด้วยกันในเวลาเดียวกัน ว่านั่นความร้อนและแสงควบคู่ไปกับไฟ ปราศจากความร้อน และ แสงคำว่าไฟก็ไม่มีความหมาย เช่นเดียวกัน พวกเราต้องค้นหาส่วนที่สำคัญที่สุดของสิ่งมีชีิวิต และสิ่งนั้นเป็นมิตรแท้แนบสนิทตัวเขาอยู่เสมอ ส่วนนั้นของมิตรแท้ที่ติดตัวสิ่งมีชีวิตอยู่เสมอ คือคุณสมบัตินิรัดร์ของเขา และส่วนของคุณสมบัติที่นิรันดร์นั้นก็คือศาสนานิรันดร์ของตัวเขา เมื่อ สะนาทะนะ โกสวามี ได้ถาม พระเจ้า เชธันญะ มหาพระบุ เกี่ยวกับ สวะรูพะ- พวกเราได้สนทนาไปแล้วเกี่ยวกับ สวะรูพะ ของสิ่งมีชีวิต สวะรูพะ หรือ พื้นฐานเดิมแท้ของสิ่งมีชีวิต, พระเจ้าทรงตอบว่า สถานภาพพื้นฐานเดิมแท้ของสิ่งมีชีวิตนั้น คือ การปฎิบัติตนรับใช้บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า แต่หากเรามาวิเคราะห์คำดำรัสส่วนนี้ของ พระเจ้าเชธันญะ พวกเราสามารถเห็นได้เป็นอย่างดีว่า ทุกๆชีวิตคือต้องทำงานทำธุระอยู่เสมอ คือ การแสดงการรับใช้ให้อีกชีวิตหนึ่ง สิ่งมีชีวิตหนึ่งรับใช้อีกสิ่งมีชีวิตหนึ่งในความสามารถหลายอย่างที่แตกต่างกัน และการกระทำเช่นนี้ สิ่งมีชีวิตจึงได้รับความสุขทั้งหลายในชีวิต สัตว์ที่ต่ำกว่าตัวหนึ่งรับใช้มนุษย์คนหนึ่ง, คนรับใช้คนหนึ่งรับใช้เจ้านายของเขา คุณ ก. รับใช้เจ้านาย ข., คุณ ข. รับใช้เจ้านาย ค. และ คุณ ค. รับใช้เจ้านาย ง. และ ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ภายใต้สภาวะเช่นนี้พวกเราจะเห็นว่าเพื่อนจะรับใช้เพื่อนอีกคนหนึ่ง และมารดารับใช้บุตร หรือ ภรรยารับใช้สามี หรือ สามีรับใช้ภรรยา หากพวกเราค้นคว้าด้วยจิตวิญญาณเช่นนี้ เราจะเห็นได้ว่า นั่นไม่มีข้อยกเว้นในการปฎิบัติตนรับใช้สังคมของสิ่งมีชีวิต ที่ไหนที่พวกเราไม่พบกิจกรรมในการรับใช้ นักการเมืองจะเสนอนโยบายของเขาให้สาธารณะชน และ เพื่อให้ความมั่นใจต่อคนลงคะแนนเสียง เกี่ยวกับความสามารถของตนในการรับใช้ ผู้ลงคะแนนเสียงจึงให้คะแนนอันมีค่าแก่นักการเมืองบนความคาดหวัง ว่านักการเมืองจะให้การรับใช้แก่สังคม เจ้าของร้านรับใช้ลูกค้า และ ศิลปินรับใช้นายทุน นายทุนรับใช้ครอบครัวของเขา และ ครอบครัวรับใช้รัฐ ในรูปของความสามารถนิรันดร์ของสิ่งมีชีวิตนิรันดร์ เช่นนี้ เราจะเห็นได้ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยที่ได้รับการยกเว้น จากการปฎิบัติตนในการรับใช้สิ่งมีชีวิตอื่นๆ และดังนั้นเราสามารถสรุปได้อย่างถูกต้องว่า การรับใช้มิตรแท้คงอยู่เสมอไปควบคู่กับสิ่งมีชีวิต และดังนั้นเราอาจสรุปได้อย่างถูกต้องว่า การรับใช้โดยสิ่งมีชีวิตหนึ่ง คือ ศาสนานิรันดร์ของสิ่งมีชีวิต เมื่อคนหนึ่งปฎิญาณตนว่าได้กลายมาศรัทธาในกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะนี้ ด้วยการอ้างโดยเฉพาะว่าตามกาลเวลา และสถานที่เกิด และเช่นนี้อ้างตนเป็นชาวฮินดูคนหนึ่ง, มุสลิมคนหนึ่ง, คริสเตียนคนหนึ่ง, ชาวพุทธ หรือ นิกายอะไรก็แล้วแต่ และนิกายย่อย ชื่อระบุเช่นนี้ ไม่ใช่เป็น สะนาทะนะ-ดารมะ ชาวฮินดูคนหนึ่งอาจเปลี่ยนความศรัทธาของเขามาเป็นมุสลิม หรือ ชาวมุสลิมคนหนึ่งอาจเปลี่ยนความศรัทธาของเขามาเป็นฮินดู หรือ ชาวคริสเตียนคนหนึ่ง ฯลฯ แต่ในสภาวการณ์ทั้งหมดการเปลี่ยนของความศรัทธาศาสนา ไม่ได้อนุญาตให้คนผู้หนึ่งเปลี่ยนการมีส่วนร่วมนิรันดร์ของเขาของการบริการรับใช้ผู้อื่น ฮินดูคนหนึ่ง หรือ มุสลิมคนหนึ่ง หรือ คริสเตียนคนหนึ่ง ในทุกสภาวะ เขาคือผู้รับใช้ของคนบางคน และเช่นนี้การปฎิญาณตนว่าเป็นผู้ศรัทธาในเฉพาะกลุ่มนี้ คือ ไม่ได้รับการพิจารณาว่าเป็น สะนาทะนะ-ดารมะ แต่มิตรแท้ที่อยู่ด้วยกันอย่างต่อเนื่องของสิ่งมีชีวิตนั่นคือ การบริการรับใช้ คือ สะนาทะนะ-ดารมะ ดังนั้นในความเป็นจริง พวกเรามีความเกี่ยวโยงในความสัมพันธ์ในการรับใช้พระเจ้าสูงสุด พระเจ้าสูงสุด คือผู้มีความสุขเกษมสำราญสูงสุด และพวกเราสิ่งมีชีวิตทั้งหลายคือ ผู้รับใช้นิรันดร์ของพระองค์เจ้าสูงสุด พวกเราถูกสร้างขึ้นเพื่อความสุขเกษมสำราญของพระองต์ และถ้าพวกเรามีส่วนร่วมในความสุขเกษมสำราญนิรันดร์ กับ บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า นั่นทำให้พวกเรามีความสุข ไม่ใช่อย่างอื่น อิสระอย่างแบ่งแยก เช่นพวกเราได้อธิบายไว้แล้วว่า อิสระอย่างแบ่งแยกนั้น ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย มือ เท้า หรือ นิ้วมือ หรือส่วนใดๆของร่างกาย โดยอิสระอย่างแบ่งแยก ไม่สามารถมีความสุขโดยปราศจากการร่วมมือกับท้อง เช่นเดียวกัน สิ่งมีชีวิตไม่สามารถมีความสุขได้ โดยปราศจาก การอุทิศตนรับใช้ด้วยความรักทิพย์แด่พระเจ้าสูงสุด ตอนนี้ในภัควัต-คีตา การบูชาเทวดาทั้งหลายไม่ได้รับการยอมรับ ที่ไม่ได้รับการยอมรับก็เพราะว่า... มันได้กล่าวไว้ในบทที่เจ็ดของ ภัควัต-คีตา โศลกที่ ยี่สิบ พระเจ้าตรัสว่า คามะอิส ทะอิส อาอิร ฮริทะ-กยานาฮ พระพัดยันเท นยะ เดวะทาฮ คามะอิส ทะอิส ทะอิร ฮริทะ-กยานาฮ ผู้คนเหล่านั้นผู้ที่ถูกนำโดยกิเลสตัณหา เท่านั้น พวกเขาบูชาเทวดายกเว้นพระเจ้าสูงสุด, คริชณะ